Wednesday, September 5, 2012

5 กันยา ซะแระ (_ _")

สวัสดีค่ะ สาวๆ

เผลอไปแป๊บเดียววันที่ 5 ซะแระอ่ะ ... ช่วงนี้งานรุมมากๆ วุ่นวายๆ แถมวันนี้พลอยใสยังเจ็บคอ ตัวรุม เหมือนจะไม่สบายซะอีก รู้สึกอาการไม่ดีตั้งแต่เมื่อวานแล้ว เฮ้อออ....

แต่ที่รู้สึกผิดสุดๆๆๆ คือไม่ได้มารายงานกะเพื่อนๆ เนี้ยแระ ..ขอโทษน้าาาาา... o(╥﹏╥)o 

วันนี้เลยมา..เอ่อ..มา..เอ่อ..มา..

มาขอผัดผ่อนอ่ะ.. คือ เค้าไม่สบายอ่ะตัวเอง ขอรีวิวรวบยอดนะคะ สัญญาว่าจะเอารูปมาลงให้ดูด้วยนะ

วันนี้ไม่ไหวแล้ว เปื่อยจิง อะไรจิง ... Good Night NaKa  ( E___E )



Saturday, September 1, 2012

Day 1

เนื่องในวันนี้เป็นวันพระ และยังเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2555 (ขึ้นเดือนใหม่พอดี๊..พอดี..) พลอยใสเลยถือโอกาสนี้เริ่มปฏิบัติการ "Make Over" นะคะทู๊กกกคนนน ...

ปล.เหตุผลจิงๆ คือ เพิ่งจะได้ครีมมาอ่ะ

ครีมที่ได้มาจากพี่มี 4 ตัวค่ะ
  1. เซรั่มหน้าใส ไร้ฝ้า - ตัวนี้พี่เค้าเฟิร์มว่า ขอแค่ใช้ค่ะ เห็นผลใน 1 สัปดาห์
  2. ครีมกันแดดค่ะ - SPF60 เชียวนะ แถมเนื้อครีมเนี้ยเนียนมากๆ
  3. ครีมหน้าเด้งเกาหลี - ตัวนี้เน้นหน้าเด้งตามชื่อเลยคะ
  4. เจลมาร์กหน้า AHA - ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพิ่มความชุ่มชื้นด้วย

เอาละคะ ไหนๆ วันนี้ก็เป็นวันแรก พลอยใสจัดเบาๆ ไปก่อนละกันเนอะ เอาเป็นว่าวันนี้พลอยใสจะเริ่มด้วยการ "มาร์กหน้า" แล้วต่อด้วย "เซรั่ม" แล้วกันนะคะ


เดี๋ยวจะมาเจรนัยให้ทราบนะคะว่าใช้แล้วเป็นไงมั่ง ตื่นเต้นอ่ะ อยากสวยค่ะ อยากสวย..
โอมเพี้ยงงงงง      



เอาบุญมาฝากสาวๆ ทู๊กกกกคนค่ะ

เช้านี้น้องสาวพลอยใสปลุกพลอยใสแต่ไก่โห่ (เอ่อ..หกโมงเช้าค่ะ .. บางคนคงคิดว่าไก่โห่ไปนานละ) ชวนไปตักบาตรที่วัดค่ะ พลอยใสเลยหอบบุญมาฝากทุกคนเลยนะคะ o(^^o)(o^^)o 

ตอนตักบาตรแอบถูกน้องเหวี่ยงคะ น้องพลอยใสชอบบอกว่าพลอยใสขี้บ่น.. เราแค่บอกเค้าว่า ก่อนใส่ให้ "จบ" (หวังว่าทุกคนคงรู้จักนะคะ) ก่อน น้องก็หันมาทำเสียงจิกใส่ แล้วบอกว่าเรื่องมาก.. เอ่อ.. มันเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องนี่นา พอขากลับก็เลยมีเคลียร์ค่ะ น้องสาวของพลอยใสบอกว่า ไม่เห็นใครเค้า "จบ" กันเลย แต่พลอยใสก้เถียงหัวชนฝาว่าต้อง "จบ" ก่อน.. น้องพลอยใสเลยบอกว่า เดี๋ยวกลับถึงบ้านจะมาถามอากู๋(เกิ้ล) ... และพลอยใสก็เจอบทความนี้ค่ะ "ข้อปฏิบัติในการใส่บาตร" อยากให้ทุกคนลองอ่านดูนะคะ พลอยใสได้เรียนรู้วิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง แถมด้วยอาการขำจนน้ำหูน้ำตาเล็ดกันเลยทีเดียวค่ะ (^_-)-*

ปล. ทำบุญมาซะเช้า เพิ่งจะเอามาฝากอ่ะนะ.. พลอยใส 

ข้อปฏิบัติในการใส่บาตร

1. นิมนต์พระ
หลังจากที่เราเตรียมสำรับกับข้าวเรียบร้อยแล้ว
เราก็ยืนรอพระที่จะเดินบิณฑบาตผ่านมา
การยืนรอพระในขั้นตอนนี้ ควรศึกษาให้ดีเสียก่อนว่า เส้นทางนี้มีพระเดินผ่านหรือไม่
ไม่ใช่ว่าไปรอบนทางสายเปลี่ยวที่ไม่มีพระเดินผ่าน คงไม่ได้ใส่กันพอดี
รอซักพัก พอมีพระเดินมาก็นิมนต์ท่าน
การนิมนต์ ก็ควรใช้คำว่า "นิมนต์ครับ/ค่ะท่าน" แค่นี้พระท่านก็ทราบแล้ว
ตอนเป็นพระเคยเดินบิณฑบาตที่ตลาดเขมร โยมนิมนต์ด้วยถ้อยคำอันรื่นหูว่า
"ท่านเจ้าประคุณเจ้าคะ นิมนต์เจ้าค่ะ" (ใช้คำไฮโซมาก)
มีอีกทีนึงโยมใช้คำว่า "นิมนต์เจ้าค่ะ พระอาจารย์" (เอ่อ โยมอาตมาเพิ่งบวชอาทิตย์เดียว)
การนิมนต์พระควรนิมนต์ด้วยความสำรวมและใช้เสียงดังพอประมาณ
โยมบางคนเรียกพระด้วยเสียงอันดัง "นิ โมนน!!" (แง้ ทำไมต้องตะคอกด้วย - -")
การนิมนต์ควรสังเกตอายุของพระด้วย
ถ้าอายุน้อยกว่าเราหรือว่าเยอะกว่าไม่มากก็เรียกว่า หลวงพี่
ถ้ามีอายุหน่อยก็เรียก หลวงน้า
ถ้าแก่พรรษามากก็เรียก หลวงตา หรือนอกจากนี้ก็อาจจะเรียก หลวงอา หลวงลุง หลวงปู่ ฯลฯ
แล้วแต่จะลำดับญาติ
อย่างฉันปีนี้อายุ ๒๓ ปี หน้าตาค่อนข้างเด็ก แต่เคยมีโยมใช้คำว่า
"นิมนต์ค่ะ หลวงลุง" ทำเอาเสีย self จนอยากสึกออกไปทำ baby face
โยมบางคนคงเขินอายพระ เนื่องจากไม่ค่อยได้ใส่บาตรเท่าไร
เวลาพระเดินมาก็ยื่นมือออกมาทำท่ากวักๆ ทำเหมือนพระเป็นรถเมล์

หลังจากนิมนต์พระ ก็เข้าสู่ขั้นตอนถัดไปคือ

2. จบ
อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเรื่องจบแล้วนะ
การจบ หมายถึง การเอามาทูนไว้ที่หัวแล้วอธิษฐาน
การจบ ควรใช้เวลาอธิษฐานแต่พองาม ไม่ต้องอธิษฐานนานจนเกินไป
เคยมีโยมนิมนต์ไปรับบาตร ไอเราก็เดินไปเปิดฝาบาตรรอรับ โยมก็จบอยู่
ขอบอกว่านานมากกกกกกก นานจนรู้สึกได้ นานจนอดคิดไม่ได้ว่า "โยมขออะไรเราน้า?"

3. ถอดรองเท้า ยืนด้วยเท้าเปล่า
จริงๆแล้ว จุดประสงค์ของการถอดรองเท้าคือเป็นการให้ความเคารพพระสงฆ์โดยการไม่ยืนสูงกว่าท่าน
เพราะเวลาพระสงฆ์บิณฑบาตจะเดินเท้าเปล่า
แต่มีญาติโยมบางคนไม่เข้าใจเกี่ยวกับการถอดรองเท้าซึ่ง
มีหลายประเภทเหมือนกัน เช่น
บางคนถอดรองเท้าอย่างเรียบร้อยแต่ยืนบนรองเท้า - -" (สูงกว่าเดิมอีก)
บางคนถอดรองเท้าและยืนบนพื้นจริง แต่ว่าตัวเองยืนบนฟุตบาท
พระยืนบนพื้นถนนซะงั้น (หนักกว่าเก่า)
เคยมีเรื่องเล่าว่า มีโยมคนนึงยืนใส่บาตรพระ
พระเห็นว่าโยมใส่รองเท้าเลยแนะนำโยมไปว่า
พระ : "โยม อาตมาว่าโยมควรถอดรองเท้าใส่บาตรนะ"
โยมมีสีหน้าตกกะใจ ตอบพระไปว่า
โยม : เอ่อ จะดีเหรอคะ
พระ : ไม่เป็นไรหรอกโยม
โยมก็จัดแจงถอดรองเท้า ยกขึ้นมาพร้อมกับถามพระว่า
โยม : จะให้ใส่ข้างเดียวหรือว่าสองข้างเลยคะ
อิบ้า!! ท่านหมายถึงถอดรองเท้าเวลาใส่บาตร ไม่ใช่ถอดรองเท้าเอามาใส่ในบาตร
อันนี้เป็นเรื่องที่หลวงน้าท่านนึงเล่าให้ฟังระหว่างฉันเพล (เรื่องขำขันขณะฉันเพล)

พอถอดรองเท้าเสร็จก็เข้าสู่ขั้นตอนที่สี่

4. ใส่บาตร
อันนี้ถือเป็นจุดไคลแมกซ์ของการใส่บาตร
สิ่งสำคัญที่ทุกคนมองข้ามก็คือควรดูว่าของที่นำมาใส่บาตรนั้น เสียรึเปล่า
บางคนมีเจตนาอยากทำบุญดี แต่ดันไปซื้อของเสียมาใส่บาตร
พระฉันไป เข้าห้องน้ำไป
พวกร้านค้าก็จริงๆ บางครั้งเอาของค้างคืนมาขายเอากำไร ไม่สนใจพระเจ้า
เห็นแก่ตัว หากินกับพระ
ก็ฝากด้วยนะ เด๋วทำบุญจะได้บาปเปล่าๆ
นอกจากนี้ ของที่นำมาใส่ ถ้าเพิ่งปรุงสุกเสร็จ ควรดูด้วยว่ามันร้อนมากรึเปล่า
เคยมีโยมใส่แกง ร้อนมากๆๆ บาตรเกือบหล่น ทั้งนี้เพราะบาตรทำจากโลหะ
นำความร้อนได้ดี
ปริมาณไม่ควรมากจนเกินไป
เคยมีโยมใส่บาตรด้วย "กล้วย ๓ หวี"
กล้วยเล็บมือนาง กล้วยไข่ อาตมาไม่ว่า
แต่นี่ใส่ "กล้วยหอม" (อันนี้เกิดกับตัวเองจริงๆ)
คิดดู "กล้วยหอม ๓ หวี" อยู่ในบาตร หนักมากกกก จนอยากบอกโยมว่า
"โยมอาตมาไม่ใช่ช้าง"
การใส่ก็ควรวางในบาตรด้วยอาการสำรวม
โยมผู้หญิงบางคนกลัวโดนพระจัด พอถุงกับข้าวถึงแค่ปากบาตร ก็ปล่อยลงมา
ตุ๊บ!! นึกว่ากาลิเลโอกลับชาติมาทดลองเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก (วางดีๆก็ได้ 55)

ขั้นตอนต่อไปคือ

5. รับพร
หลังจากใส่บาตรเสร็จ พระสงฆ์ส่วนมากก็จะให้พร
เราเป็นญาติโยม ก็ประนมมือรับพรกันตามระเบียบ โดยอาจยืนหรือนั่งยองๆ ก็ได้ ก้มหัวแต่พองาม
เคยมีโยมยืนประนมมือ แต่ก้มหน้ามาแทบชนพระ ห่างจากหน้าพระประมาณคืบเดียว
(ไม่ต้องใกล้ชิดศาสนาขนาดนั้นก็ได้โยม (ตอนนั้นให้พรเบาๆ เพราะไม่มั่นใจเรื่องกลิ่นปาก))
ถ้าเป็นโยมผู้หญิงก็นั่งให้เรียบร้อย เหมาะสม
ระหว่างนี้ก็อุทิศส่วนกุศลให้คนที่รัก เจ้ากรรมนายเวรและอื่นๆ ก็ว่ากันไป

ขั้นตอนการทำบุญง่ายๆ ตื่นเช้ามาใส่บาตรกันเถอะนะคะ \ (^0^) /


 

ก่อน Day1 (ภาคสุดท้าย)

ตั้งแต่ที่เล่ามาทั้งหมดจนถึงวันนี้ พลอยใสยังไม่ได้บอกอีกเหตุผลในการที่พลอยใสเริ่มเขียนบล็อคนี้เลยใช่มั้ยค่ะ คือเรื่องมันมีอยู่ว่า หลังจากที่พลอยใสทานอาหารเสริม (สมุนไพร) "เพรียวร่า" และเชื่อมมั่นเกิน 100% ว่าเนี้ยละ.. คือ ความสวยจากภายในของผู้หญิง พลอยใสเชื่อตลอดมาและจะเชื่อตลอดไปค่ะว่า "ผู้หญิงต้องสวยจากภายใน" ค่ะ ถึงจะบำรุงครีมมากมายขนาดไหน แต่ถ้าระบบฮอร์โมนในร่างกายเราไม่สมดุล ความสวยใสแบบธรรมชาติก็จะไม่เกิดขึ้นค่ะ (เอาไว้วันหลังจะมาแชร์ประสบการณ์ของคนอื่นๆ ที่รู้จักให้ฟังนะคะ) พลอยใสก็เลยไปบอกผลลัพธ์ที่ได้จากการทานให้พี่สาวรู้ ซึ่งดูท่าว่าเค้าก้ไม่ประหลาดใจค่ะ (เค้าคงนึกในใจว่า ก็แน่ละสิ ก็ชั้นบอกให้ลองนานแล้ว)

หลังจากที่คุยกันซักพัก พลอยใสก็เลยเล่าเรื่องที่อยากปฏิวัติตัวเองให้พี่เค้าฟัง (ตอนที่เล่าก็เริ่มรู้สึกแล้วละว่าตั้งแต่ทาน "เพรียวร่า" เราดูสดชื่นกว่าแต่ก่อน หน้าตาดูใสขึ้นด้วยละ) พี่เค้าก็บอกว่า อืม..ก็ดีนะรู้จักดูแลตัวเองซะบ้าง

พี่เค้าเลยเสนอไอเดียว่า เอาอย่างนี้มั้ย ไหนๆเราก็จะปฏิวัติตัวเองอยู่แล้ว เราก็ทาน "เพรียวร่า" อยู่แล้วด้วย เราจะทดลองใช้ครีมและเครื่องสำอางค์ของพี่มั้ย? ตอนนั้นในใจคิด 2 อย่างค่ะ 1.มองหน้าพี่เค้าแล้วคิดว่า ถ้าหนูได้หน้าใสๆ แบบพี่ก็โอค่ะ (มาถึงตอนนี้ (ณ ขณะเขียนอยู่) ก็มานั่งนึกว่า เจอกันก็ตลอดๆ ทำม้ายยย ทำมายยย ไม่เคยคิดจะสนใจเลยว่าพี่เค้าทำอะไรถึงสวยขึ้นทุกวันแบบนี้) กะ 2.พี่เค้าขายครีมกะเครื่องสำอางค์ด้วยเหรอ? แต่ก็น่าจะโอนะ เพราะขนาด "เพรียวร่า" ยังได้ผลเลย

แต่คำตอบที่ให้พี่เค้าไปคือ อยากใช้นะคะ แต่.. ขอทดลองก่อนได้ป่ะ เอ่อ..ไม่ค่อยเลยนะเรา (≧▽≦) 

พี่เค้าเลยบอกว่า งั้นเอางี้ เรามาแลกเปลี่ยนกัน พี่จะให้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ของพี่ไปทดลองใช้ (จิงๆที่บอกว่าใหม่ ก็แค่ออกมาหลังจาก "เพรียวร่า" ซักพักนึงค่ะ) แต่พี่อยากให้เราช่วยรีวิวผลิตภัณฑ์ให้พี่หน่อยว่า เราใช้แล้วเป็นอย่างไรบ้าง? โอ่... รีวิวคืออะไรอ่ะคะ (ตอบกลับไปแบบโง่ๆอีกแระตรู) พี่เค้าบอกว่า ก็แค่เขียนว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเป็นไงมั่ง ดีไม่ดียังไง ใช้อะไรไปบ้าง ทำนองเนี้ย.. โธ่เอ้ยยยยย เรื่องแค่เนี้ยยยอ่ะ จิ๊บๆค่ะ ถ้าแลกกับของฟรี 555

และท้ายที่สุด PureRa by พลอยใส ก็ถือกำเนิดขึ้น (กว่าจะมาถึงจุดกำเนิด เฮ้อออ ล่อซะยาวเชียว)

ก็อย่าคิดอะไรกันมากเลยนะคะ พลอยใสตั้งใจทำบล็อคนี้เพื่อประโยชน์ 2 ข้อค่ะ 1.อยากให้ผู้หญิงอย่างเราได้มาแชร์ความสวยกัน กะ 2.อยากใช้ของเค้าฟรีอ่ะ ~( ̄▽ ̄)~* 555 ดีจะตายไป ได้ใช้ของฟรี แล้วยังได้รู้อีกว่าของเค้าจะดีจิงอะไรจิงสมคำเล่ารืออ่ะป่าววววววววว

สุดท้ายนี้ เตรียมพบกับการเปลี่ยนแปลงของพลอยใสได้เลยค่ะ .. แอบดีใจอ่ะ เพราะหวังว่าเราจะสวยขึ้น เย้! เย้!




ก่อน Day1 (ภาค3)

หลังจากที่พลอยใสได้ยาสมุนไพรมาแล้ว.. (ยอมรับตรงๆนะคะว่า ตอนนั้นยังไม่รู้จักเลยว่า พี่สาวสุดสวยเค้าขายสินค้ายี่ห้ออะไร?) ก็จัดการเป็นหนูทดลอง เอ่อ.. จะเรียกอย่างนั้นก็คงไม่ค่อยถูกต้องนักนะคะ เพราะเค้าขายกันมานานเป็นปีๆละ แต่หนูเนี้ยแหระที่เพิ่งจะมาทดลอง  ( *>.<* )

พลอยใสก็ทานวันละ 2 เม็ดก่อนนอนตามที่พี่สั่งค่ะ..

เอ่อ.. ทีนี้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คือ ตกขาวที่มีกลิ่นของพลอยใส เริ่มหายไปหลังจากที่ทานไปได้ประมาณ 2-3 วันค่ะ !!! ヽ( ´ー`)ノ ไม่น่าเชื่อเนอะ.. แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ เจอประสบการณ์ตรงๆ แบบนี้ เชื่อสนิทเลย.. ขอบอกก่อนนะคะว่า พลอยใสไม่ได้มาโฆษณาขายสินค้านะคะ แต่พลอยใสแค่มาเล่าประสบการณ์ให้ฟังค่ะ ถ้าใครไม่เชื่อก็คงต้องทดลองด้วยตัวเองแล้วนะคะ ขอบอกว่า อย่าทนทรมานเลย อาการปวดท้องประจำเดือนมันไม่ได้หายไปด้วยการทานยาพาราหรือพอนสแตนด์นะ!!

หลังจากที่รู้ว่าทานแล้วดี ก็ทานมาอย่างสม่ำเสมอค่ะ แถมบอกต่อให้เพื่อนๆที่มีปัญหาเหมือนกันได้ทดลองด้วย แต่ละคนก็บอกว่า ดีจิงอะไรจิง 

อ่อ.. ลืมบอกผลข้างเคียงค่ะ หลังจากที่พลอยใสทานติดต่อกัน 1 สัปดาห์ จำกันได้ใช่มั้นคะว่า พลอยใสบรรยายสภาพตัวเองไว้ยังไงบ้าง .. หลักๆที่ชัดเจนคือ หน้าแห้งจนถึงขั้นลอก โดยเฉพาะบริเวณระหว่างคิ้ว ในขณะที่หน้าส่วนอื่นมัน (@_@;) จะเยอะไปไหนเนี้ยยยยย.. ปรากฎว่า เพียง 1 สัปดาห์ บริเวณหน้าผากที่เคยแห้งและลอก ก็หายไป โอ่!! พระเจ้าจอร์จ..มันยอดมาก (อันนี้ต้องขอยืมทีวีไดเร็คมาใช้เลยนะคะ) คือไม่น่าเชื่อจิงๆค่ะ พลอยใสบอกได้เลยว่า พลอยใสไม่ได้ทำอะไรเลยค่ะ ยังขี้เกียจเหมือนเดิม ไม่ทาครีมเหมือนเดิม ทุกอย่างทำตัวเหมือนเดิม แต่มีสิ่งเดียวที่ต่างไป คือ การทานยาสมุนไพรนี่แหละคะ.. ก็พยายามคิดนะคะว่า ทำไม? เราทำอะไรที่่ต่างจากเดิมรึป่าว? (ก็คนมันไม่เชื่อไงคะ..คิดว่ายังไงก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่น่าจะเกี่ยว) แต่มันก็จิงๆอ่ะ ไม่ได้ทำอะไรเลย และเราก้ไม่ได้เแก่ขนาดหลงลืมสิ่งที่ทำใน 1 สัปดาห์ขนาดนั้นซะหน่อย  ... เนี้ยละคะ ผลข้างเคียงที่พลอยใสบอก ... ใครไม่เชื่อ พลอยใสขอท้าให้ลองค่ะ ('_^)b



ก่อน Day 1 (ภาค 2)

ขอเกริ่นต่อจากเมื่อวานนิดนึงว่า หลังจากที่พลอยใสตั้งใจอย่างยิ่งในการทำสวย เอ่อ..ไม่ได้ทำศัลยกรรมนะคะ แต่ตั้งใจว่าเราต้องสวยให้ได้ พลอยใสคิดว่าผู้หญิงทุกคนสวยมาแต่กำเนิดค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเสริมความสวยของเราได้มากน้อยแค่ไหน พลอยใสถือคติที่ว่า "สวยสร้างได้" ค่ะ พลอยใสก็เริ่มหาข้อมูลทันที เข้าเวปนู้น ออกเวปนี้ ไปเวปนั้น เอ่อ.. ยุคนี้นะคะ อยากรู้อะไร อยากหาอะไร อยากได้อะไร ก็ต้องอากู๋(เกิ้ล)เลยค่ะ ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ แต่ยังไม่มีอะไรโดนใจซักที .. คือ พลอยใสเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องการขายของออนไลน์ซักเท่าไหร่คะ เคยคิดว่า การที่ใครซักคนจะซื้อของออนไลน์นั่นหมายความว่า ของชิ้นนั้นต้องถูกกว่าของทั่วไป หรือ หาซื้อทั่วไปไม่ได้ ... แต่ต้องใช้คำว่า "เคยคิด" นะคะ เพราะเดี๋ยวนี้ โอ้..แม่เจ้า อะไรกัลลลลเนี้ยยย มีร้านออนไลน์ขายของกันเต็มไปหมดตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ o(>< )o แถมราคาก็มิใช่ถูกนะเนี้ย ถึงไงพลอยใสก็ว่า โอกาสโดนหลอกก็สูงอยู่ดี เนอะ.. ดังนั้น ก็ตั้งหน้าตั้งตาหาแต่ข้อมูลต่อไป (เอ่อ..แล้วเมื่อไหร่จะเริ่มสวยคะ คุณน้องพลอยใส (บอกตัวเองอ่ะค่ะ))

... จนมาวันนึง และแล้ววันนั้นก็มาถึง พลอยใสนึกขึ้นมาได้ว่า พลอยใสมีพี่สาวคนนึงที่เค้าขายพวกผลิตภัณฑ์ความงามทั้งหลาย พลอยใสเคยไปหาเค้า แล้วบังเอิ๊น บังเอิน ประจำเดือนมา ..(พลอยใสไม่เคนรู้ล่วงหน้าเลย ให้ตายสิ) ก็เป็นไงละคะ อย่างที่บอก ประจำเดือนไม่ได้มาโดดๆ เค้ามาพร้อมกับ อาการปวดท้อง ซึ่ง พลอยใสทนได้ (อารมเดียวกะ สีทนได้ ค่ะ) พี่สาวเค้าเห็นหน้าซีดๆ เหลืองๆ เหงื่อออก นั่งตัวงง เค้าเลยถามเราว่าเป็นไร ก็บอกไปตามนี้แหระคะ เค้าบอกว่า "เอายาสมุนไพรไปทานมั้ย มันช่วยได้นะ" (ก่อนหน้านี้เค้าเคยบอกหลายทีแระ) คิดว่า พลอยใสจะตอบไงคะ.. คนรุ่นใหม่อย่างเราใครจะไปเชื่อว่า สมุนไพรจะช่วยได้ คงมีแต่ พารา กะ พอนสแตนด์ เพื่อนยากเท่านั้น พลอยใสก็เลยถามไปพอเป็นมารยาทว่า มันช่วยอะไรเหรอคะ

พี่เค้าก็บอกว่า มันเป็นสมุนไพรไทยที่ช่วยในเรื่องระบบฮอร์โมนของผู้หญิง แก้อาการปวดท้อง ประจำเดือนมาไม่ปกติ ตกขาว ช่วยกระชับมดลูก แถมยังมีสารสกัดพวกทับทิมที่จะช่วยในเรื่องหน้าใสด้วย

โอ่.. สรรพคุณอะไรจะล้านแปดขนาดน้าน..  ก็เลยตอบเค้าไปแบบเป็นมารยาทว่า ค่ะ! ค่ะ! เอ่อ..จะหมายความว่ายังไงละคะนอกจาก "ไม่เอาคะ" .. ก็ไม่เชื่ออ่ะ

ทีนี้.. หลังจากนั้นช่วงเดือน-2เดือนที่ผ่านมา พลอยใสมีอาการแปลกๆ คือ พลอยใสเป็นตกขาว .. เอ่อ บางคนอาจบอกว่า ก็ปกตินี่นา ใช่คะ แต่ก่อนมันปกติ ก็มันมีมาตลอดอ่ะ แต่มันเริ่มไม่ปกติก็ตรงที่ พลอยใสเริ่มรู้สึกว่า มันมีกลิ่นด้วยเนี้ยสิคะ คือมันจะเป็นกลิ่นเหม็นอับๆค่ะ ตอนนั้นก็งงๆว่า เอ๋..เราเป็นอะไรอ่ะ ก็คิดเองเออเองว่า อ๋อ.. สงสัยตรงนั้นมันคงอับและชื้น มันเลยมีกลิ่น (เป็นไงละฉลาดๆ) ก็เลยพยายามรักษาความสะอาดเพิ่มขึ้น บางทีตอนนอนก็ต้องปล่อยอิสระบ้าง (ไม่ใส่ กกน.) เพื่อให้ระบายความอับชื้นคะ ก็คิดว่าเราน่าจะมาถูกทางแล้วนะ แต่ปรากฏว่า ... มันก้ไม่หาย!!! กลัวจะเป็นมะเร็งปากมดลูกอ่ะสิคะ เห็นเค้าบอกว่าผู้หญิงเป็นกันเยอะ เอ่อ..พลอยใสยังไม่ได้ใช้งานเลยอ่ะ เอ่อ.. ไม่ดีนะคะ ไม่ดี.. เลยไม่รู้จะทำไง ก็คิดถึงพี่สาวขึ้นมา คือ ณ จุดนี้ อะไรว่าแก้ได้ ก็ลองหมดละคะ..

พลอยใสถึงขั้นออกปาก "ขอ" กันเลยทีเดียว ... ก็ทำเป็นเลียบๆเคียงๆ ขอเค้ามาทดลองใช้ค่ะ (พี่เค้าคงนึกในใจว่า ชั้นบอกมาเป็นปีๆแล้ว เพิ่งจะมาสนใจ เชอะๆ..เชอะๆ) แต่พี่ก็ใจดีให้มาทดลองใช้นะคะ..

เค้าบอกว่าให้ทานวันละ 2 เม็ดก่อนนอนค่ะ (ถ้าน้ำหนักน้อยว่า 55กิโล ก็ทานเม็ดเดียวค่ะ แต่พลอยใสอ่ะ.. เอ่อ.. อ่ะ.. เอ่อ.. เอาเป็นว่าจัดเป็นพวกทาน 2 เม็ดละกัน)

พอได้มาก้จัดไปค่ะ ... เดี๋ยวมาต่อนะคะว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง  



Friday, August 31, 2012

ก่อน Day 1

ก่อนจะพูดถึงเรื่องที่ไกลตัว พลอยใสขอพูดถึงเรื่องใกล้ๆ ตัวก่อนนะคะ คงจะเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้นอกจากเรื่องของตัวพลอยใสเอง..

นิสัยส่วนตัวของพลอยใส พลอยใสก็เหมือนคนปกติธรรมดาทั่วไปคะ ไม่ได้โดเด่นอะไร แถมมีข้อเสีียที่เป็นอุปสรรคต่อความสวยมากๆ เลย คือ ความขี้เกียจค่ะ!! คือส่วนตัวไม่ได้เป็นคนขี้เกียจนะคะ แต่พอพูดถึงเรื่องความงามเมื่อไหร่ เฮ้อออ... พอมีคนบอกให้พลอยใสหัดดูแลตัวเองบ้าง แต่งเนื้อแต่งตัวบ้างอะไรบ้าง พลอยใสก็มักตอบแบบติดตลกไปว่า "พลอยใสกลัวจะสวย เดี๋ยวจะเด่นกว่าคนอื่น" (กล้าพูดเนอะ..)   แต่ทุกครั้งก็จะรู้ตัวว่าจริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลยละ ไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกจะกลัวสวยหรอกจริงมั้ย?  พลอยใสเคยนั่งคิดเล่นๆ ว่าแล้วทำไมเราถึงตอบไปแบบนั้น .. มีใครพอจะคิดออกบ้างมั้ยอ่ะ?

... และแล้วพอคิดไปคิดมา ในที่สุดก็ได้คำตอบ นั่นคือ "ความที่เราไม่มีความมั่นใจในตัวเอง" ไงละ พลอยใสสังเกตจากการที่พลอยใสมักจะเดินไปไหนมาไหนแบบไม่ชอบมองใคร ไม่ชอบเป็นจุดสังเกต แถมยังไม่สนใจตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง ซ้ำร้ายยังชอบคิดว่า ทำไปก็เท่านั้นแหระ ... (¯▽¯;)  เคยคิดจะพยายามอยู่ก็หลายทีก็ไม่ค่อยมีแรงเร้ยยยยย...

จนมาวันนึง.. เป็นวันที่พลอยใสรู้สึกว่าคงไม่ได้แล้วหละ เหตุการณ์มันมีอยู่ว่า.. วันนั้นพลอยใสตื่นขึ้นมาแล้วส่องกระจก พลอยใสจกใจกับตัวเองมาก เพราะหน้าของพลอยใสดูหมองคล้ำสุดๆ (ไว้จะเอารูปมาลงให้ดูค่ะ..) พลอยใสตกใจหน้าตาตัวเองมาก ไม่คิดว่าหน้าตาเราจะแย่ได้ขนาดนี้ ทุกคนอาจนึกไม่ออกว่าแย่ขนาดไหน ลองนึกตามดูนะคะ 1.หน้าพลอยใสแห้งมาก โดยเฉพาะหว่างคิ้ว ถึงกับลอกจนแดง รวมทั้งมือซนๆ ของพลอยใสก็ไปแคะแกะเกามันตลอดเวลา 2.ในขณะที่บางส่วนของใบหน้าแห้ง แต่ผิวหน้าตรง T-ZONE กลับมันแผลบ เรียกได้ว่าเอาน้ำมันไปทอดไข่ได้สบายๆเลยละ ยังไม่พอนะคะ 3.บริเวณคางก็มีสิวอักเสบขึ้นมาด้วย เรื่องสิวบริเวณคางเนี้ยคงต้องพูดกันยาวค่ะ ถือเป็นสิวในตำนานไปแล้ว จะไม่ให้เป็นสิวในตำนานได้ไงคะ ก็มันเล่นเป็นแล้วเป็นอีกไม่หายอ่ะ เฮ้อออ.. นี่เฉพาะเท่าที่เห็นๆนะ ไม่รวมสุขภาพภายในที่เป็นมานมนาม จนเป็นเหมือนเรื่องปกติ ซึ่งพลอยใสเคยเชื่อแบบนั้นจริงๆ ว่าเรื่องอาการปวดท้องประจำเดือนเนี้ย เป็นเรื่องปกติของผู้หญิงทุกคน เพราะอาการปวดท้องมันมาทุกเดือนจนพลอยใสคิดว่ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของประจำเดือนไปแล้ว แต่หลังๆ เนี้ยมันมีอาการหนักข้อขึ้นไปทุกที นั่นคือมันปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เฮ้อออ.. สังขารไม่เที่ยงจริงๆ

เห็นมั้ยคะว่า พลอยใสสมควรที่จะต้องลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเองมั้ย? พอเรามีอาการเป็นแบบนี้ เราก็เริ่มไม่อยากออกไปไหน พอไม่อยากออกไปไหน เราก็ไม่อยากแต่งตัว พอไม่อยากแต่งตัว เราก็เริ่มปล่อยเนื้อปล่อยตัว ... ทุกอย่างก็มีแต่แย่ลง..แย่ลง..

ยังไงก็ เอาใจช่วยพลอยใสด้วยนะคะ.. ว่าพลอยใสจะทำสำเร็จมั้ย?